จิตวิทยาแห่งการ เทรด Forex
จิตวิทยาแห่งการ เทรด Forex
บทความเรื่อง จิตวิทยาแห่งการ เทรด Forex บทความนี้ ส่วนใหญ่มาจากหนังสือของ Dr Alexander Elder เรื่อง “Trading For A Living” แต่ผมเพิ่มเติมในบางส่วนเพื่อให้มันดีขึ้น
การ เทรด Forex ด้วยหลักจิตวิทยานั้นเขาดูกันอย่างไร ?
การขึ้น และ ลง แต่ละครั้งนั้น เป็นความสอดคล้องกันของมูลค่าทั้งหมด ของเทรดเดอร์และนักลงทุนทุกรายที่เข้าร่วม เมื่อตลาดเป็นขาขึ้นนั้น ก็จะขึ้นอย่างมาก พวกเขาจะทำการซื้อมากขึ้น และดันราคาให้ขึ้น เมื่อเป็นขาลงนั้นก็เช่นกัน มันก็จะลงอย่างมาก พวกเขาก็จะทำการขายมากขึ้น และดันราคาให้ลงต่อเนื่อง
ราคาที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งนั้น จะสะท้อนถึงการกระทำหรือการ take action ของเทรดเดอร์และนักลงทุน ในตลาด และจะแสดงออกมาให้เห็นจาก Chart ราคา ซึ่งเป็นประตูสู่จิตวิทยามวลชน เมื่อวิเคราะห์จาก Chart แล้ว ท่านจะเห็นพฤติกรรมทั้งหมดของ เทรดเดอร์และนักลงทุนในตลาด
หากท่านไปสอบถามกูรูจากสำนักต่างๆว่า ทำไมราคาถึงขึ้น ? ท่านก็จะได้คำตอบเหมือนๆกันคือ “คนซื้อมากกว่าคนขาย” !!
ซึ่งคำตอบข้างต้นนั้น มันไม่เป็นความจริง เพราะ จำนวนสัญญาที่มีการ ซื้อ ขาย ในตลาดนั้นๆ จะเสมอภาคกันตลอด (ALWAYS EQUAL)
หากท่านต้องการจะซื้อ ฟรังก์สวิส (Swiss Francs) จะต้องมีใครบางคนมาขายให้ท่าน ท่านจึงจะซื้อได้ เช่นกัน หากท่านต้องการขาย เงินเยน (Japanese Yen) ก็จะต้องมีใครสักคนมาซื้อต่อจากท่านเช่นกัน นั่นหมายความว่า จำนวนของการ ซื้อ (Long) และ การขาย (Short) ในตลาดจะเท่ากันเสมอ
สาเหตุที่ราคามีการปรับตัวสูงขึ้น หรือ ปรับตัวต่ำลง เนื่องมาจากความโลภและความกลัวของเทรดเดอร์และนักลงทุนในตลาด เมื่อมีแนวโน้มขึ้น (Bullish) คนที่ซื้อนั้นรู้สึกมั่นใจว่าราคาจะไปต่อ จึงยอมที่จะซื้อเพิ่มโดยยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่า ส่วนคนที่ถือออเดอร์ฝั่ง Sell (Short) นั้นก็เกิดความกลัวว่าราคาจะขึ้นต่อ จึงยอมขายในราคาขาดทุน (ราคาที่สูงกว่าราคาที่ตัวเองเปิดออเดอร์ Sell เอาใว้) จึงส่งผลให้ราคานั้นสูงขึ้นต่อเนื่อง
หากยังนึกภาพไม่ออกลองนึกถึง พระเครื่อง สมมุติว่า นาย A ถือพระเครื่องอยู่เหรียญหนึ่ง ซึ่งนาย A บูชามาจากวัดราคา 99 บาท หลังจากนั้น นาย B รู้สึกอยากได้ นาย A จึงขายให้ราคาเท่าทุนคือ 99 บาท เหตุการณ์นี้ส่งผลให้กราฟพระเครื่อง sideway อยู่กับที่ คือราคา 99 บาท หลังจากนั้น นาย B ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำรถยับทั้งคัน แต่นาย B ดันไม่เป็นอะไร นาย A เห็นจึงเชื่อว่า เป็นเพราะพระเครื่องช่วยนาย B เอาใว้ จึงมาขอซื้อคืน นาย B จึงถือโอกาสเกร็งกำไร โดยบอกขายในราคา 9,999 บาท นายA รู้สึกมั่นใจในพระเครื่องว่าสามารถช่วยให้รอดพ้นได้ จึงยอมจ่ายในราคา 9,999 บาท เหตุการณ์นี้ ส่งผลให้กราฟพระเครื่อง ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งๆที่มีคนซื้อเท่าเดิม คือ 1 คน นั่นคือ นาย A
จากตัวอย่างข้างต้น เป็นการยกตัวอย่างง่ายๆเพื่อนำมาเทียบกับการ เทรด Forex จะแสดงให้เห็นว่า สาเหตุที่ราคาขึ้น หรือ ลง นั้นไม่เกี่ยวกับจำนวนคนซื้อขาย แต่อยู่ที่ความเชื่อหรือความโลภ เท่านั้น
ทีนี้ ไปถึงจุดๆหนึ่ง เมื่อฝั่งBuy ที่เกิดความโลภมาก และ ตะกละ ไปพบเจอกับ เทรดเดอร์และนักลงทุน ฝั่ง Sell ที่รวมตัวกันเพื่อพยายามรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ยอมที่จะขายขาดทุนให้ฝั่ง Buy ก็จะทำให้ ฝั่ง Buy นั้นเริ่มจะเสียความมั่นใจ และ เกิดความกลัว ก็ส่งผลให้กราฟนั้นไม่ขึ้นต่อ เริ่มเกิดการ Sideway หรือ สไลดอ์ออกข้าง ฝั่ง Sell ก็จะเริ่มเกิดความมั่นใจและส่งผลให้ไม่ยอมขายขาดทุนมากยิ่งขึ้น
ฝั่ง Buy นั้นก็เริ่มกลัว และ จะรอซื้อเพิ่มเฉพาะเมื่อราคาต่ำลง หรือ มีการย่อตัวลงก่อน ตราบเท่าที่ฝั่ง Sell รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นผู้ชนะ พวกเขาก็จะยังคงขายในราคาที่ต่ำกว่าไปเรื่อย ทำให้กราฟก็จะกลายเป็น ขาลงหรือปรับตัวลงไปเรื่อยๆ จนกว่าฝั่ง Sell จะเริ่มรู้สึกกลัวว่าราคาจะไม่ลงต่อ
เทรด เดอร์ Forex ในตลาดส่วนน้อยนักที่จะใช้เหตุผลในการเทรด แต่ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ในตลาดนั้นจะเทรดตามคำพูดที่ว่า “เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง” ซะมากกว่า คือ เห็นเขาทำอะไร ก็ทำตามเขาโดยไม่มีเหตุผล พลังของความกลัวและความโลภนั้นแผ่รัศมีให้เกิดเป็น ขาขึ้น และ ขาลง ตลาดขึ้นจากความโลภของผู้ซื้อ และ ความกลัวของผู้ขาย
โดยปกติ ผู้ซื้อ นั้นจะต้องการซื้อในราคาที่ต่ำ หรือ ราคาถูก เมื่อพวกเขาเห็นตลาดเป็นขาขึ้นมากๆ เขาก็จะรู้สึกกลัวว่าจะไม่ได้ซื้อในราคาถูก จึงรีบซื้อเพราะกลัวราคาจะสูงกว่านี้ ตลาดก็จะเป็นขาขึ้นต่อไปตราบเท่าที่ ผู้ซื้อนั้นยังโลภมากพอที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ขาย
ส่วนตลาดขาลงก็เช่นเดียวกัน ตลาดก็จะปรับตัวลงเรื่อยๆ ตราบใดที่ผู้ขายโลภมากพอที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อ
ทั้งสองตัวอย่างนี้ บ่งบอกเห็นเห็นว่า ท่านจะต้องวางแผนในการเทรดอย่างระมัดระวัง และ ไม่ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา หรือ ตอบสนองต่อความโลภของคนเหล่านั้น
และอย่าตัดสินใจในการซื้อขายในเวลาเดี๋ยวนั้น ให้คิดวางแผนให้รอบคอบก่อน เพราะนั่นมันคือช่วงเวลาที่ท่านมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกดูดเข้าไปในวงล้อแห่งฝูงชนที่มีความโลภ
credit: FullertonMarket